#เรื่อง “แสดงคติสมบูรณ์” ให้กระทำกลับคืน ศัพท์ แก้ตัว ‹ ?“เรื่องย่อมจะทราบ และให้เห็นว่า มีหลาย ‘อุ!’ คือเมื่อใด ใครอ่าน ตามที่บทพระคัมภีร์ ให้แถลงไว้แล้ว ในแต่ละกัณฑ์ ในแต่ละบรรพ์ หรือในแต่ละแผนก , จบลง ย่อมเห็นว่า ถึงที่ ที่จะเป็นที่รวมของคำว่า อุ-ได้ เมื่อใด คนค้นหาติดตาม ก็เห็นว่า เป็นเรื่องที่กล่าวไป ทีแรก ไม่จบ! คือโลกจักรวาฬ ก็ย่อมแบ่งไว้ ให้เห็นดั่งนั้นแล้ว อยู่ที่ใครจะสามารถ ว่ากล่าวให้พิสดารเองได้ ก็จงทำ จงกระทำให้พอเรื่อง พอแค่แต่เรื่องมีอย่างเดียวเท่านั้น ก็คือการ หามาให้ถึง ที่สถิต อันว่าลงถึงแก่น แห่งความอุดม วัฒนา ดี! คือคำว่า มนุษย์ เราฉะนั้น ก็เรื่อง จะต้องเกิดมา ปรากฏมา , อุบัติมา ในที่อันอุดม มิเช่นนั้นแล้ว จุติ และอุบัติ ก็ย่อมจะมิอาจ จะมาให้ได้ถึงความเป็นมนุษย์ -อุตตระทฤษฎี! ตามจินตนาการ และความคิดของคนในสมัยปัจจุบัน ย่อมเห็นว่า การณ์ มิใช่! คือมิใช่อุดม เพราะแต่ก่อนอุดม ฉะนั้น ย่อมเป็นเรื่อง อุกฤษฏ์ อุกกาบาต แลอุทกภัย กว่าเรื่องจะอุดมได้ มาถึงที่มนุษย์ อะไร รายล้อมอยู่ด้วยสาระ และแก่นอันนี้ เรื่องถึงไม่นับว่า เป็นที่อันอุดม นี้เป็นสมัย?นี้ เป็นเรื่องน่าคิดอุกกะ -กุกกะ เผ่าอัน มาเป็น ท้าวผู้สุมก่อกองกูณฑ์ ให้แก่โลก พระเจ้าโอกากราช เป็นโคตร และเป็นต้นวงศ์ มาอันนี้ ก็น่าจะถือว่า เป็นนามอุดร นั่นเอง หรือถือว่าเป็นนามอุโฆษ ก็ได้ แต่แล้ว อุดร อย่างหนึ่ง ศัพท์ ต้องว่า อุตระ และว่าทิศเหนือ ก็อุตระ คืออุดร นั่นก็ หมายถึงหลายอย่าง อุตรบรรพ์ ทักษิณบรรพ์ ปัจฉิมบรรพ์ ปุรพบท บรรพ์!ก็เรื่อง แต่พิสดารพันลึก ยากมาก ที่จะคิดค้นหา ต่อไปได้จนมาถึงเรื่อง อุบาทว์! ตัวอย่างของเรื่องก็คือ ใดคืออุบาทว์ ชี้ว่า วเนจร หรือวงจร ของการหาเที่ยว สัญจร ไปโดยที่ตนไร้จุดหมาย และคติ!อันที่ดีมากำหนด ดั่งนั้น ท่านว่า เที่ยวท่อง ไปหาแต่ความเป็นอุบาทว์ชาติชั่ว นั่นเอง , ส่วนอุปัทวะ อุบาทว์เรื่องอีกอย่าง อีกอัน ก็คือ ท่านว่า ลาง!ร้าย เป็นเช่นว่า ผีสั่นหลังคา อมนุษย์จรมาให้เห็น หรือจำพวกผีเคาะฝาเรือน ผีปาฝาเรือน ฝาบ้าน ดังนี้เป็นต้น คำแถลงชี้แจง เช่นนั้น ก็คือ ท่านว่า ลาง!อุบาทว์ เป็นเรื่องแก่งาน แก่การณ์ของความโลภ คือว่า มนุษย์เรา ท่านใดโลภ และด้วยเฉพาะแล้ว มนุษย์ หรือเทวา ท่านที่มีศักดานุภาพมาก ผู้ที่จะให้การวัฒนา หรือจัญไรอย่างไรชะงัด! ได้ หากท่านผู้นั้นเกิดโลภ ลงชนิดที่คำพระเรียกว่า อภิชฌา คือโลภเกินสมควร แล้วย่อมให้เกิดการอุบาทว์ นั้น ๆ คือว่าเรือนของผู้มีอานุภาพน้อย หรืออยู่ภายใต้ปกครอง ฉะนั้น ก็เกิดอาการ วิกล หรือวิปริต น่าเป็นห่วงต่าง ๆ คือ เช่นที่โบราณท่านกล่าว ว่า ผีสั่นหลังคา หรือมาปาฝาบ้าน ฉะนั้นแหละ ทุกท่านเอ๋ย เป็นอุบาทว์ เกิดขึ้นได้ เมื่อในวาระใดก็ตาม ที่คนมีบุญวาสนา มีศักดิ์ บารมี ใหญ่โต ครั้งท่าน ได้เกิดความโลภแล้ว มาในทางที่ผิด” (กระทำกลับคืน กระทำสมบูรณ์ คำว่า “แก้ตัว” ดูอ้าง rb.gy/vaqjwi )
コメントを投稿
1 件のコメント:
#เรื่อง “แสดงคติสมบูรณ์” ให้กระทำกลับคืน ศัพท์ แก้ตัว ‹ ?
“เรื่องย่อมจะทราบ และให้เห็นว่า มีหลาย ‘อุ!’ คือเมื่อใด ใครอ่าน ตามที่บทพระคัมภีร์ ให้แถลงไว้แล้ว ในแต่ละกัณฑ์ ในแต่ละบรรพ์ หรือในแต่ละแผนก , จบลง ย่อมเห็นว่า ถึงที่ ที่จะเป็นที่รวมของคำว่า อุ-
ได้ เมื่อใด คนค้นหาติดตาม ก็เห็นว่า เป็นเรื่องที่กล่าวไป ทีแรก ไม่จบ! คือโลกจักรวาฬ ก็ย่อมแบ่งไว้ ให้เห็นดั่งนั้นแล้ว อยู่ที่ใครจะสามารถ ว่ากล่าวให้พิสดารเองได้ ก็จงทำ
จงกระทำให้พอเรื่อง พอแค่แต่เรื่องมีอย่างเดียวเท่านั้น ก็คือการ หามาให้ถึง ที่สถิต อันว่าลงถึงแก่น แห่งความอุดม วัฒนา ดี! คือคำว่า มนุษย์ เราฉะนั้น ก็เรื่อง จะต้องเกิดมา ปรากฏมา , อุบัติมา ในที่อันอุดม มิเช่นนั้นแล้ว จุติ และอุบัติ ก็ย่อมจะมิอาจ จะมาให้ได้ถึงความเป็นมนุษย์ -อุตตระ
ทฤษฎี! ตามจินตนาการ และความคิดของคนในสมัยปัจจุบัน ย่อมเห็นว่า การณ์ มิใช่! คือมิใช่อุดม เพราะแต่ก่อนอุดม ฉะนั้น ย่อมเป็นเรื่อง อุกฤษฏ์ อุกกาบาต แลอุทกภัย กว่าเรื่องจะอุดมได้ มาถึงที่มนุษย์ อะไร รายล้อมอยู่ด้วยสาระ และแก่นอันนี้ เรื่องถึงไม่นับว่า เป็นที่อันอุดม นี้เป็นสมัย?นี้ เป็นเรื่องน่าคิด
อุกกะ -กุกกะ เผ่าอัน มาเป็น ท้าวผู้สุมก่อกองกูณฑ์ ให้แก่โลก พระเจ้าโอกากราช เป็นโคตร และเป็นต้นวงศ์ มาอันนี้ ก็น่าจะถือว่า เป็นนามอุดร นั่นเอง หรือถือว่าเป็นนามอุโฆษ ก็ได้ แต่แล้ว อุดร อย่างหนึ่ง ศัพท์ ต้องว่า อุตระ และว่าทิศเหนือ ก็อุตระ คืออุดร นั่นก็ หมายถึงหลายอย่าง อุตรบรรพ์ ทักษิณบรรพ์ ปัจฉิมบรรพ์ ปุรพบท บรรพ์!ก็เรื่อง แต่พิสดารพันลึก ยากมาก ที่จะคิดค้นหา ต่อไปได้
จนมาถึงเรื่อง อุบาทว์! ตัวอย่างของเรื่องก็คือ ใดคืออุบาทว์ ชี้ว่า วเนจร หรือวงจร ของการหาเที่ยว สัญจร ไปโดยที่ตนไร้จุดหมาย และคติ!อันที่ดีมากำหนด ดั่งนั้น ท่านว่า เที่ยวท่อง ไปหาแต่ความเป็นอุบาทว์ชาติชั่ว นั่นเอง , ส่วนอุปัทวะ อุบาทว์เรื่องอีกอย่าง อีกอัน ก็คือ ท่านว่า ลาง!ร้าย เป็นเช่นว่า ผีสั่นหลังคา อมนุษย์จรมาให้เห็น หรือจำพวกผีเคาะฝาเรือน ผีปาฝาเรือน ฝาบ้าน ดังนี้เป็นต้น
คำแถลงชี้แจง เช่นนั้น ก็คือ ท่านว่า ลาง!อุบาทว์ เป็นเรื่องแก่งาน แก่การณ์ของความโลภ คือว่า มนุษย์เรา ท่านใดโลภ และด้วยเฉพาะแล้ว มนุษย์ หรือเทวา ท่านที่มีศักดานุภาพมาก ผู้ที่จะให้การวัฒนา หรือจัญไรอย่างไรชะงัด! ได้ หากท่านผู้นั้นเกิดโลภ ลงชนิดที่คำพระเรียกว่า อภิชฌา คือโลภเกินสมควร แล้ว
ย่อมให้เกิดการอุบาทว์ นั้น ๆ คือว่าเรือนของผู้มีอานุภาพน้อย หรืออยู่ภายใต้ปกครอง ฉะนั้น ก็เกิดอาการ วิกล หรือวิปริต น่าเป็นห่วงต่าง ๆ คือ เช่นที่โบราณท่านกล่าว ว่า ผีสั่นหลังคา หรือมาปาฝาบ้าน ฉะนั้นแหละ ทุกท่านเอ๋ย เป็นอุบาทว์ เกิดขึ้นได้ เมื่อในวาระใดก็ตาม ที่คนมีบุญวาสนา มีศักดิ์ บารมี ใหญ่โต ครั้งท่าน ได้เกิดความโลภแล้ว มาในทางที่ผิด” (กระทำกลับคืน กระทำสมบูรณ์ คำว่า “แก้ตัว” ดูอ้าง rb.gy/vaqjwi )
コメントを投稿